การใช้อินเตอร์เน็ตของเยาวชนไทย
เยาวชนเป็นทรัพยากรที่สำคัญ หากเยาวชนมีคุณภาพ หมายความว่า
โอกาสที่ประเทศนั้นจะพัฒนาไปในอนาคตนั้นมีมาก
จึงได้มีการส่งเสริมให้มีการพัฒนาเยาวชนในด้านต่างๆ ในเรื่องของการศึกษา
ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทด้านการเรียนการสอนเป็นอย่างมาก เทคโนโลยีสารสนเทศจะก่อให้เกิดประโยชน์ก็ต่อเมื่อมีการใช้งานที่เหมาะสมรูปแบบการควบคุมให้มีการใช้งานตามวัตถุประสงค์หรือการใช้งานที่เหมาะสม
นอกจากเนื้อหาต่างๆ
ในอินเตอร์เน็ตแล้วสิ่งที่เป็นอันตรายจากการใช้งานในอินเตอร์เน็ตสำหรับเด็กนั้น
ยังมีอีกหลายด้าน เช่น ใช้ในการสนทนา ทักทายกับบุคคลอื่นทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ไม่รู้จัก
จากโปรแกรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Pirch chat icq และแฝงในเว็บไซต์ต่างๆ
ที่มีให้บริการกันมากมายเหลือเกิน และกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่วัยรุ่น
หรือบางครั้ง แม้แต่ผู้ใหญ่ หรือวัยทำงานก็ไม่วายที่จะเข้ามาใช้บริการกับเขาด้วย
ปัจจุบันนี้มีเกมออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกมที่ค่อนข้างรุนแรง
ไม่ได้พัฒนากระบวนการคิดและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์นัก แต่เกมต่างๆ
เหล่านั้นทำให้เกิดลักษณะนิสัยก้าวร้าว การใช้ความรุนแรง
ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นนอกจากจอคอมพิวเตอร์ และธุรกิจนี้ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ทำให้เยาวชนหมกมุ่นอยู่กับเรื่องการสนทนาผ่านอินเตอร์เน็ต
ซึ่งเยาวชนได้ใช้เวลานี้ไม่ก่อประโยชน์ ใช้เวลาหมดไปวันหนึ่งเท่านั้น
และยังเสียเงินค่าเช่าชั่วโมง โดยไม่ได้ความรู้อะไรเพิ่มเติมเลย เสียการเรียน
เพราะหมกมุ่นอยู่กับเกม การสนทนาออนไลน์ และยังก่อให้เกิดปัญหาที่รุ่นแรง
ดังมีข่าวที่เยาวชน รู้จักกันทางอินเตอร์เน็ต และนัดเจอกัน ก่อให้เกิดคดีข่มขืน
และคดีอื่นอีกมากมาย ยืน ภู่วรรณ และสมชาย นำประเสริฐชัย. (2546). กล่าวถึงปัญหาอินเตอร์เน็ตกับเยาวชนไทยไว้ตอนหนี่งว่า สิ่งที่น่ากลัวมากคงเป็นเรื่องชองโรคระบาดทางอินเตอร์เน็ตที่ชื่อว่า IAD
(Internet Addiction Disaster) และโรค Webaholic โรคทั้งสองโรคนี้เป็นโรคติดอินเตอร์เน็ตเหมือนกัน
มักมีความต้องการในการใช้คอมพิวเตอร์ออนไลน์สูง
ซึ่งโรคนี้จะมีผลร้ายทั้งในเรื่องของสุขภาพของผู้ติดเอง ทั้งในเรื่องสายตา ความสมดุลทางอารมณ์และปัญหานี้จะเป็นจุดเริ่มของการก่อตัวสำหรับปัญหาอื่นๆ
ที่ตามมา เช่น ประสิทธิภาพของการเรียน และการทำงานลดต่ำลง
และค่าใช้จ่ายในการใช้บริการและการเชื่อมต่อสูงมากขึ้น
โรคติดอินเตอร์เน็ตนี้ส่วนใหญ่เป็นกับเด็กวัยรุ่นทั่วโลก
ในประเทศไทยเองก็มีผู้ติดโรคนี้เป็นจำนวนไม่น้อย ส่วนใหญ่มักเป็นนิสิต นักศึกษา
ที่ติดการท่องเว็บ ดาวน์โหลดโปรแกรม รูปภาพ ไฟล์
หรือพูดคุยสนทนากับผู้อื่นในอินเตอร์เน็ต โดยจะทำทุกครั้งที่มีโอกาส
ไม่ว่าจะดึกเพียงใด หากคนที่ติดอินเตอร์เน็ตนี้ไม่สามารถทำได้จะเกิดอาการหงุดหงิด
เป็นทุกข์ เหมือนคนติดยาแต่ไม่ได้เสพ
นอกจากที่กล่าวมาแล้วยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่น่าเป็นห่วง
คือการเข้าไปใช้บริการในเว็บไซต์ต่างๆ ที่ไม่เหมาะสม เช่นเว็บไซต์ลามกอนาจาร
ที่มีอยู่จำนวนมาก โดยการเข้าไปใช้บริการเว็บนั้นๆ ง่ายดายมาก
ถึงแม้ว่าในสถานที่ราชการ หรือสถานศึกษาบางแห่งจะเข้าไปสกัดกั้น
ไม่ให้เข้าไปใช้บริการบนเว็บนั้นได้ แต่ก็ไม่สามารถสกัดกั้นได้
เนื่องจากยังมีสถานที่ที่ค่อยรองรับการบริการแบบเช่าชั่วโมงให้กับเยาวชน
ซึ่งมีกระจายอยู่ทั่วไป ข้อมูลเว็บไซต์เหล่านั้นมีออกมาหลากหลายรูปแบบ
เพื่อดึงดูดความสนใจ ไม่ว่าจะนำเสนอเป็นภาพนิ่ง วีดีโอ ภาพยนตร์ ฯลฯ
จึงทำให้ธุรกิจด้านสื่อลามกมีผู้ใช้บริการมากขึ้น
จากการที่เยาวชนของเราได้เข้าไปดูในเว็บไซต์ต่างๆเหล่านี้
อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาอย่างมากมาย เช่น ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร
ปัญหาโรคเอดส์ ปัญหาครอบครัว ฯลฯ
จากการปัญหาที่เกิดขึ้น ต้นเหตุปัญหาที่สำคัญไม่ได้อยู่ที่อินเตอร์เน็ต
แต่ที่สำคัญอยู่ที่คนของเรา คือผู้ใช้ ไม่มีความพร้อม
สำนึกรู้ที่จะใช้ชีวิตในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ไม่มีวุฒิภาวะพอที่จะรับรู้ข้อมูลบางเรื่องที่ไม่สามารถวิเคราะห์แยกแยะได้
ไม่สามารถเร่งเห็นถึงคุณประโยชน์ และคุณโทษของเทคโนโลยีสารได้สนเทศ หากแต่ผู้ใช้มีความพร้อมมีศักยภาพพอที่จะจัดการกับตัวเองได้
ผู้ปกครองหมั่นเอาใจใส่ดูแลบุตรหลานของตนในการใช้งานอินเตอร์เน็ต
โดยอาจกำหนดช่วงเวลาในการใช้งาน
และหากพบว่าไม่สามารถควบคุมหรือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของบุตรหลานได้ก็จำเป็นต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือจิตแพทย์เพื่อช่วยเหลือ
และควรสร้างสัมพันธ์ภายในครอบครัว การมีเวลาอยู่ด้วยกัน ทำกิจกรรมร่วมกันนั้น
ช่วยลดปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคมได้เป็นอย่างดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น